‘ตั๊ก บงกช’ เผยชีวิตสุดพีค เจ้าชายขอเดตแลกเงิน 60 ล้าน

‘ตั๊ก บงกช’ เผยชีวิตสุดพีค เจ้าชายขอเดตแลกเงิน 60 ล้าน

เรียกได้ว่าเป็นดาราสาวคนหนึ่งที่โชคดีมาก ๆ สำหรับ “ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล” หลังจากที่แต่งงานกับเจ้าสัวบุญชัยก็ขยันปล่อยภาพโมเมนต์หวานซึ้งมาให้แฟนคลับได้ชมกันอยู่เรื่อย ๆ แต่ก่อนที่จะมีวันวานหวานชื่นแบบนี้ ชีวิตของสาวตั๊กก็ผ่านช่วงเวลาพีค ๆ มาไม่น้อยเหมือนกัน

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ทางพี่ฉอด สายทิพย์ 

ก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @djpchod เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของรายการ Club Friday ที่มีสาวตั๊กเป็นแขกรับเชิญ โดยจะออกอากาศรายการเต็มในวันที่ 28 มกราคม 2566 นี้ ทั้งนี้ในคลิปวิดีโอดังกล่าวมีการพูดถึงเรื่องราวชีวิตในอดีตของ ตั๊ก บงกช โดยเธอเปิดเผยว่าเมื่อเป็นคนขี้หึงมาก และเป็นคนที่อยู่ด้วยยาก จึงทำให้คบใครก็คบไม่ยืด คบกันได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แม้จะมีคนเข้ามาจีบเยอะแต่ฝ่ายชายหลายคนก็มักจะพูดว่าอยู่กับตั๊กแล้วไม่มีความสุข

นอกจากนี้แม่ของสาวตั๊กยังคอยเน้นย้ำอยู่เสมอว่าผู้ชายไม่ได้รักเราจริง รักแท้ไม่มีอยู่จริง “ทุกครั้งที่เรามีแฟนเราจะขี้หึงมาก ภาษาแม่ ที่มึงคบอ่ะ นักร้องอย่างนี้ ที่ผ่านมา ตลกอย่างนี้ กูถามน่าหึงไหม” และที่พีคไปกว่านั้นคือประสบการณ์ที่สาวตั๊กได้เจอ เมื่อมีหนุ่มอ้างว่าเป็นเจ้าชายประเทศหนึ่ง ติดต่อมาเพื่อขอให้ตั๊กออกเดตด้วย โดยไปกินข้าวกับชายคนนี้แลกกับเงินจำนวน 60 ล้านบาทเป็นการตอบแทน

“เขาก็บอกว่ามีเจ้าชายประเทศหนึ่ง เขายังไม่ได้แต่งงานนะ แต่เขาอยากทานข้าวกับตั๊ก แล้วเขาเอาเครื่องบินมารับ แล้วถ้าตกลงวันนี้เขาให้ 60 ล้านเลย” ซึ่งทางพิธีกรก็ได้ถามสาวตั๊กไปว่าแค่ไปกินข้าวอย่างเดียวใช่ไหม ซึ่งก็เป็นคำถามเดียวกับที่แม่ของสาวตั๊กเคยถามเช่นกัน อย่างไรก็ตามสาวตั๊กก็พูดถึงเหตุการณ์เจ้าชายมาขอเดตในครั้งนั้นว่า แม่ของเธอไม่เชื่อว่าไปกินข้าว และไม่ยอมให้สาวตั๊กไปเดตกับคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าชาย เพราะกลัวว่าตั๊กจะถูกหลอก สุดท้ายแล้วแม่ของตั๊กก็ขู่ไปว่าจะแจ้งความจับชายคนดังกล่าว

ยังมีเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตอีกมากมายของสาวตั๊กที่ยังไม่ถูกเปิดเผย หากใครสนใจก็สามารถติดตามรับชมได้ในรายการ Club Friday ในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 เวลา 12.00 น. ทางช่อง One31

คุณจีกับผู้หญิงคนนั้นได้มีโอกาสคุยกัน อีกฝ่ายจึงถามเธอว่า “พี่เคยออกรอบไหม?” ซึ่งตอนแรกเธอค่อนข้างสับสน จนได้มารู้ทีหลังในวันที่เฉลยความจริง ซึ่งคุณจีและผู้หญิงอีกคนวางแผนกัน โดยคุณจีจะคุยกับผู้ชายแล้วแอบถือสายของผู้หญิงคนนั้นให้ได้ฟังไปด้วยกัน

เมื่อเธอถามดาราชายว่า คนที่โทรมาคือใคร ผู้ชายได้ตอบว่าเป็นผู้จัดการ โดยไม่ทราบเลยว่าตอนที่ตอบผู้หญิงที่กำลังพูดถึงก็ได้ยินด้วยเช่นกัน จนกระทั่งเรื่องมาพีคเมื่อผู้หญิงคนนั้นมาปรากฏตัวที่บ้าน

คำแรกที่แฟนอีกคนของดาราหนุ่มถามคุณจีคือ “รถที่จอดอยู่หน้าบ้านรถใคร” คุณจีจึงตอบว่าเป็นรถตน ทำให้อีกฝ่ายตอบกลับมาว่า ดาราหนุ่มเอารถคันนี้รับตนไปกินข้าวหลายครั้งแล้ว ก่อนที่ฝ่ายหญิงและดาราชายจะหันไปทะเลาะกันเอง จนกระทั่งผุ้หญิงพลั้งปากออกมาว่า

“เราอ่ะรักเธอมากขนาดไหน เรายอมอ่ะ ไปนอนให้ผู้ชายคนอื่นเอาแล้วให้เธอยืนดูอ่ะ มันยังไม่พออีกเหรอ มันยังไม่พออีกเหรอ”

‘ณวัฒน์’ ไม่เอานางงามจาก ‘MUT-นางสาวไทย’ เบื่อโดนด่า-แย่งผลงาน

จากกรณีข่าวของกองประกวด ‘Miss Grand Thailand (มิสแกรนด์ ไทยแลนด์)‘ ร่อนหนังสือปฏิเสธการรับสมัครนางงามจากเวทีอื่น แม้ไม่ได้ตำแหน่งก็ตาม ล่าสุด (24 ม.ค. 66) ทาง ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล‘ ก็ได้มีการออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ‘คนดังนั่งเคลียร์‘ ทาง ‘ช่อง 8‘ ย้ำชัด ไม่เอานางงามจาก ‘Miss Universe Thailand‘ และ ‘นางสาวไทย‘ โอดเบื่อโดนด่า-แย่งผลงาน โดยระบุว่า

“ก็ชัดเจนนะครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่อยากมีปัญหากระทบกระแทกจุกจิก เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาเราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรที่สัมพันธ์กันโดยที่มีการขัดแย้งตลอด มันก็มาต่อเนื่องนะครับ อย่างเช่นคณะกรรมการพิเศษที่ไปเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เวลาไปสัมภาษณ์ก็ควรจะสัมภาษณ์ผู้เข้าประกวด แต่สัมภาษณ์ไปได้พักนึงก็มากระทบกระแทกด่าทอเวทีเรา ถึงแม้จะไม่เอ่ยชื่อเวที แต่ใครก็รู้ว่ากำลังว่าใครอยู่ เราก็รู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้นะครับ ด้วยปกติคนเราก็ต้องมีมารยาทด้วยกัน

จากนั้นเน็ตไอดอลคนนี้ก็ด่ามาเรื่อย ๆ เราก็รู้สึกรำคาญ อย่างหงษ์ทองก็ไปถ่ายรูปกับเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวจะมีโปรเจกต์ใหม่ด้วยกัน เรามีความรู้สึกว่าเราจากกันไม่ได้เลยเหรอ มันก็เริ่มหงุดหงิด รำคาญ หลัง ๆ ก็จะมีระบบ 77 จังหวัดอีกในอีกหนึ่งเวที ก็ได้ไม่เป็นไร ทุกคนก็ทำได้ แต่บังเอิญว่ามีการไปติดต่อ PD เราตลอดเวลา

คือเราอยากอยู่ของเรา เราสร้างมาด้วยความยากลำบาก เราก็ไม่อยากกระทบกระเทือนกัน เราเลยตัดสินใจว่านางงามที่จะประกวดเวทีมิสแกรนด์ เราก็ระบุว่าถ้าไป 2 เวทีนี้เราจะไม่รับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดนะครับ มันยังมีเวทีอีกเยอะแยะมากมายในประเทศไทย เพียงแต่เราเหนื่อยแล้วที่จะถูกการกระทบกระแทก และถูกการใช้งานในวัตถุดิบที่มันใกล้เคียงกันเกินไป”

“ไม่เลือกเราก็ไม่ใช่เรื่องผิด เราไม่ได้สั่งห้ามเลือก เราก็มีสิทธิที่จะเลือกคุณสมบัติในสิ่งที่เราต้องการได้ คุณเองมีโอกาสที่จะเลือก คุณก็เลือกเวทีที่คุณต้องการได้ ผมว่ามันก็แฟร์พอสมควร แต่ถ้าจะให้เรายอมรับทุกอย่าง ต้องยอมอดทนทุกอย่าง ต้องถูกกระทบกระแทก ไม่ว่าจะเป็นสปอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นกรรมการที่เชิญใครมานั่งด่าเรา แล้ว 77 จังหวัดจะต้องมาตอด PD เราแล้วนางงามมันก็วนอยู่แบบนี้ เราก็เบื่อ เพราะว่าเวทีเรากว่าจะเทรนด์นางงามมาได้ ต่อให้เขาตกรอบ แต่เราก็ต้องใช้เวลาในการเทรนด์มีต้นทุนอยู่ด้วยกันเกือบเดือน พูดง่าย ๆ ว่าเบื่อครับ

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตแตกง่าย แทงบอลออนไลน์